Subliminal Messages การซ่อนข้อความหรือความหมายในที่ต่างๆ???
หน้า 1 จาก 1
Subliminal Messages การซ่อนข้อความหรือความหมายในที่ต่างๆ???
Credit : http://board.palungjit.com/f2/subliminal-messages-การซ่อนข้อความหรือความหมายในที่ต่างๆ-268244.html
วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
Subliminal Messages.......3 of
ปู พื้นกันไปพอสมควรแล้วครับ กับ SM ที่เค้าสร้างและซ่อนไว้ในที่ต่างๆ น่าทึ่งและน่าสยดสยองพอสมควรเลยนะครับ ที่ผ่านมาถือว่าเป็นการอุ่นเครื่องครับ และโพสต์นี้เราจะกลับไปดู SM ที่ถูกซ่อนไว้ในอารยธรรมเก่าแก่ของโลก คือ อารยธรรมมายัณ (Mayan..click!) ในห้วงเวลา 2,000 BC. หรือ 4,010 ปีมาแล้วครับ (2,000BC+2,010Christ) ถ้ามองเห็นความเชื่อมโยงแล้วอาจจะทำให้ความน่าทึ่งและความน่าสยดสยองเพิ่ม ขึ้นมาอีกในระดับหนึ่งครับ โดยเรามาดูที่สถาปัตยกรรมของเค้าครับว่าเค้าซ่อนอะไรไว้บ้างลองดูภาพนี้ครับ
ทีนี้ เราเน้นลงมาดูที่ฐานทั้ง 2 ด้าน ของสถาปัตยกรรมนี้กันครับ ทั้งสองด้านจะเป็นรูป "Mayan King" หรือกษัตริย์ของมายัณในชุดทรงเต็มยศ แต่กษัตริย์ทั้งสองพระองค์กลับมาหมอบอยู่ที่ฐานเพื่อรองรับอะไรบางอย่างที่ อยู่เหนือขึ้นไปบนยอดสุดครับ เราลองมาเน้นดูที่ฐานกันให้ชัดๆ ในรูปต่อไปนี้ครับ
คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขยาย!!!
หาก ใครมีพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ลองหยิบมาเปิดดูที่พระธรรมอิสยาห์ บทที่ 29 ข้อที่ 15-16 ปริศนาของไบเบิ้ลในบทตอนนี้พยายามสื่อถึงเจ้าสิ่งนี้ครับ แต่เนื่องด้วยในฉบับภาษาไทย แปลความคลาดเคลื่อนมาก ทำให้ยากต่อความเข้าใจจึงทำให้การตีความผิดเพี้ยนไปในที่สุด เพราะในไบเบิ้ลภาษาอังกฤษฉบับคิงเจมส์ (KJV) key words ที่สำคัญที่สุดในท่อนนี้คือคำว่า " UPSIDE DOWN " หรือ "การกลับหัว" ครับ
29:15 วิบัติแก่ผู้ที่พยายามซ่อนแผนงานของเขาไว้ลึกจากพระเยโฮวาห์ ซึ่งการกระทำของเขาอยู่ในความมืด ผู้ซึ่งกล่าวว่า "ใครเห็นเรา ใครจำเราได้"
29:15 Woe unto them that seek deep to hide their counsel from the LORD, and their works are in the dark, and they say, Who seeth us? and who knoweth us?
29:16 แน่นอนความวิปริตของ เจ้าจะถือว่าช่างปั้นเท่ากับดินเหนียว และสิ่งที่ถูกสร้างจะพูดเรื่องผู้สร้างมันว่า "เขาไม่ได้สร้างข้า" หรือสิ่งที่ถูกปั้นขึ้นจะพูดเรื่องผู้ปั้นมันว่า "เขาไม่มีความเข้าใจอะไรเลย" อย่างนี้หรือ
29:16 Surely your turning of things upside down shall be esteemed as the potter's clay: for shall the work say of him that made it, He made me not? or shall the thing framed say of him that framed it, He had no understanding?
ภาพ ต่อไปเราจะมาดู SM ที่พวกเค้าซ่อนไว้ โดยวิธีการ "กลับหัว" ในลักษณะเดียวกันกับโลโก้ของ "Starbucks" ครับ แล้วเราก็จะได้รูปต่อไปนี้
พอจะเห็นรูปหรือเค้าโครงของอะไรบ้างหรือ ยังครับ ถ้ายังไม่เห็น ผมจะเน้นให้เห็นโดยใช้วงรี และสี่เหลี่ยมดังภาพด้านล่าง โดยวงรีกลางภาพจะเป็นส่วนของหัว สี่เหลี่ยมกลางภาพจะเป็นส่วนของลำตัว และสี่เหลี่ยมด้านขวาจะเป็นส่วนของปีกนั่นเองครับ
SM หรือ Subliminal Messages ที่เค้าซ่อนไว้ในสถาปัตยกรรมโบราณชิ้นนี้ก็คือ "Devil" หรือ "Fallen Angel" หรือเป็นสัญลักษณ์ของ "ซาตาน" นั่นเองครับ
และทั้งหมดนี่คือ SM ที่ซ่อนอยู่ในสถาปัตยกรรมของอารยะธรรมมายัณในสมัย 4,010 ปีที่แล้ว เราคงพอจะเห็นครับว่าอารยธรรมต่างๆ ของโลกถูกอิทธิพลของความชั่วร้ายเหล่านี้ครอบงำมาตลอดหลายพันปีที่ผ่านมา หากท่านใดยังคงสงสัยถึงที่มาของพวก Fallen Angel หรือพวกเทวดาตกสวรรค์ที่มาแผ่อิทธิพลบนโลกมนุษย์ใบนี้ตั้งแต่ครั้ง ดึกดำบรรพ์ ลองดูโพสต์เก่าๆที่ผมเขียนไว้ในเรื่องเหล่านี้ครับ
พวกเขาเหล่านี้เป็นใครในยุคโบราณ 1...click
พวกเขาเหล่านี้เป็นใครในยุคโบราณ 2...click
พวกเขาเหล่านี้เป็นใครในยุคโบราณ 3...click
ที่ ผ่านไปเป็นอารยะธรรมของมายัณ ซึ่งยังมีอีกหลายชิ้นมากที่ซ่อน SM ในลักษณะนี้ไว้ครับ แต่หลังจากที่อารยะธรรมนี้ล่มสลายไปแล้ว ก็จะไปต่อกันที่อียิปต์ คือในช่วง 1300 B.C. หรือ 3,310 ปีนับจนถึงวันนี้ แล้วเราจะไปดูกันครับว่าพวก Fallen Angel หรือซาตานกลุ่มนี้ไปแผ่อิทธิพลอะไรไว้อีกในอิยิปต์ และจะเป็นที่มาของคำว่า Alien หรือพวกต่างด้าว(โดยรากศัพท์) และกลายมาเป็นมนุษย์ต่างดาวในทุกวันนี้ ซึ่งเป็นอิทธิพลและต้นแบบของการสร้างปิระมิดจากอียิปต์จนมาอยู่บนธนบัตรดอล ล่าสหรัฐในที่สุด โพสต์ต่อไปครับ.......
วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
Subliminal Messages.......3 of
ปู พื้นกันไปพอสมควรแล้วครับ กับ SM ที่เค้าสร้างและซ่อนไว้ในที่ต่างๆ น่าทึ่งและน่าสยดสยองพอสมควรเลยนะครับ ที่ผ่านมาถือว่าเป็นการอุ่นเครื่องครับ และโพสต์นี้เราจะกลับไปดู SM ที่ถูกซ่อนไว้ในอารยธรรมเก่าแก่ของโลก คือ อารยธรรมมายัณ (Mayan..click!) ในห้วงเวลา 2,000 BC. หรือ 4,010 ปีมาแล้วครับ (2,000BC+2,010Christ) ถ้ามองเห็นความเชื่อมโยงแล้วอาจจะทำให้ความน่าทึ่งและความน่าสยดสยองเพิ่ม ขึ้นมาอีกในระดับหนึ่งครับ โดยเรามาดูที่สถาปัตยกรรมของเค้าครับว่าเค้าซ่อนอะไรไว้บ้างลองดูภาพนี้ครับ
ทีนี้ เราเน้นลงมาดูที่ฐานทั้ง 2 ด้าน ของสถาปัตยกรรมนี้กันครับ ทั้งสองด้านจะเป็นรูป "Mayan King" หรือกษัตริย์ของมายัณในชุดทรงเต็มยศ แต่กษัตริย์ทั้งสองพระองค์กลับมาหมอบอยู่ที่ฐานเพื่อรองรับอะไรบางอย่างที่ อยู่เหนือขึ้นไปบนยอดสุดครับ เราลองมาเน้นดูที่ฐานกันให้ชัดๆ ในรูปต่อไปนี้ครับ
คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขยาย!!!
หาก ใครมีพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ลองหยิบมาเปิดดูที่พระธรรมอิสยาห์ บทที่ 29 ข้อที่ 15-16 ปริศนาของไบเบิ้ลในบทตอนนี้พยายามสื่อถึงเจ้าสิ่งนี้ครับ แต่เนื่องด้วยในฉบับภาษาไทย แปลความคลาดเคลื่อนมาก ทำให้ยากต่อความเข้าใจจึงทำให้การตีความผิดเพี้ยนไปในที่สุด เพราะในไบเบิ้ลภาษาอังกฤษฉบับคิงเจมส์ (KJV) key words ที่สำคัญที่สุดในท่อนนี้คือคำว่า " UPSIDE DOWN " หรือ "การกลับหัว" ครับ
29:15 วิบัติแก่ผู้ที่พยายามซ่อนแผนงานของเขาไว้ลึกจากพระเยโฮวาห์ ซึ่งการกระทำของเขาอยู่ในความมืด ผู้ซึ่งกล่าวว่า "ใครเห็นเรา ใครจำเราได้"
29:15 Woe unto them that seek deep to hide their counsel from the LORD, and their works are in the dark, and they say, Who seeth us? and who knoweth us?
29:16 แน่นอนความวิปริตของ เจ้าจะถือว่าช่างปั้นเท่ากับดินเหนียว และสิ่งที่ถูกสร้างจะพูดเรื่องผู้สร้างมันว่า "เขาไม่ได้สร้างข้า" หรือสิ่งที่ถูกปั้นขึ้นจะพูดเรื่องผู้ปั้นมันว่า "เขาไม่มีความเข้าใจอะไรเลย" อย่างนี้หรือ
29:16 Surely your turning of things upside down shall be esteemed as the potter's clay: for shall the work say of him that made it, He made me not? or shall the thing framed say of him that framed it, He had no understanding?
พอจะเห็นรูปหรือเค้าโครงของอะไรบ้างหรือ ยังครับ ถ้ายังไม่เห็น ผมจะเน้นให้เห็นโดยใช้วงรี และสี่เหลี่ยมดังภาพด้านล่าง โดยวงรีกลางภาพจะเป็นส่วนของหัว สี่เหลี่ยมกลางภาพจะเป็นส่วนของลำตัว และสี่เหลี่ยมด้านขวาจะเป็นส่วนของปีกนั่นเองครับ
SM หรือ Subliminal Messages ที่เค้าซ่อนไว้ในสถาปัตยกรรมโบราณชิ้นนี้ก็คือ "Devil" หรือ "Fallen Angel" หรือเป็นสัญลักษณ์ของ "ซาตาน" นั่นเองครับ
และทั้งหมดนี่คือ SM ที่ซ่อนอยู่ในสถาปัตยกรรมของอารยะธรรมมายัณในสมัย 4,010 ปีที่แล้ว เราคงพอจะเห็นครับว่าอารยธรรมต่างๆ ของโลกถูกอิทธิพลของความชั่วร้ายเหล่านี้ครอบงำมาตลอดหลายพันปีที่ผ่านมา หากท่านใดยังคงสงสัยถึงที่มาของพวก Fallen Angel หรือพวกเทวดาตกสวรรค์ที่มาแผ่อิทธิพลบนโลกมนุษย์ใบนี้ตั้งแต่ครั้ง ดึกดำบรรพ์ ลองดูโพสต์เก่าๆที่ผมเขียนไว้ในเรื่องเหล่านี้ครับ
พวกเขาเหล่านี้เป็นใครในยุคโบราณ 1...click
พวกเขาเหล่านี้เป็นใครในยุคโบราณ 2...click
พวกเขาเหล่านี้เป็นใครในยุคโบราณ 3...click
ที่ ผ่านไปเป็นอารยะธรรมของมายัณ ซึ่งยังมีอีกหลายชิ้นมากที่ซ่อน SM ในลักษณะนี้ไว้ครับ แต่หลังจากที่อารยะธรรมนี้ล่มสลายไปแล้ว ก็จะไปต่อกันที่อียิปต์ คือในช่วง 1300 B.C. หรือ 3,310 ปีนับจนถึงวันนี้ แล้วเราจะไปดูกันครับว่าพวก Fallen Angel หรือซาตานกลุ่มนี้ไปแผ่อิทธิพลอะไรไว้อีกในอิยิปต์ และจะเป็นที่มาของคำว่า Alien หรือพวกต่างด้าว(โดยรากศัพท์) และกลายมาเป็นมนุษย์ต่างดาวในทุกวันนี้ ซึ่งเป็นอิทธิพลและต้นแบบของการสร้างปิระมิดจากอียิปต์จนมาอยู่บนธนบัตรดอล ล่าสหรัฐในที่สุด โพสต์ต่อไปครับ.......
Re: Subliminal Messages การซ่อนข้อความหรือความหมายในที่ต่างๆ???
ซึ่งยังไม่นับรวมกับการ์ตูนอีกสารพัดซีรี่ ย์ที่ออกอากาศทางเคเบิ้ลทีวีในอเมริกา ที่สื่อถึงเรื่อง Ritual หรือพิธีกรรมการบูชาซาตาน เซ็กส์ และความลามกสกปรกในรูปแบบต่างๆ ทั้งยังแอบแฝงไว้ในสื่อโฆษณา โลโก้ เครื่องหมายการค้า การตั้งชื่อแบรนด์ดังระดับโลกต่างๆ ทั้งในสหรัฐอเมริกาและแพร่กระจายไปทั่วโลก ซึ่งแฝงไปด้วย SM แทบทั้งสิ้น ถ้าเรามองเห็นภาพรวมทั้งหมดหรือรู้ว่าใครเป็นเจ้าของธุรกิจเหล่านี้แล้วเรา จะเข้าใจครับว่ามันไม่น่าจะใช่ความบังเอิญอย่างแน่นอน แต่ทุกอย่างถูกสร้างและปลูกฝังมานานนับศตวรรษจนทำให้เราไม่สามารถมองเห็นใน สิ่งเหล่านี้ เพราะมันกลายเป็นวิถีของโลกใบนี้ไปแล้วนั่นเอง
Note : ไพ่อีกใบจากเกมส์ไพ่อิลลูมินาติ ก็คือ "Tidal Wave" หรือจะเรียกว่า "ซุปเปอร์ซึนามิ" ก็ได้ครับ เป็น ไพ่อีกใบที่จะทำงานร่วมกับไพ่ใบที่แล้วครับ คือจะเป็นผลจากการทำงานของไพ่ Atomic Monster ที่จะสร้างอำนาจการทำลายล้างอย่างมหาศาลด้วยความสูงของคลื่นจากทะเลซึ่งสูง เท่ากับตึกหลายชั้นครับ ประมาณว่าไม่ต้องวิ่งให้เหนื่อยเพราะยังก็แทบจะหนีไม่ทันถ้าไม่มีระบบการ เตือนภัยที่ดีพอ ถ้าลองกลับไปดูหนัง 2012 อีกซักรอบโดยดูฉากที่คลื่นยักษ์ซัดเข้าถล่มนิวยอร์คและทำเนียบขาวแล้ว ประกอบกับโพสต์ต่อๆไปที่ผมจะอธิบายในเรื่องนี้ จะเข้าใจได้ครับว่ามันไม่ไกลเกินสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นจริงเลยครับ
ผม เริ่มชักสงสัยแล้วครับว่าซึนามิที่เกิดขึ้นทางชายฝั่งอันดามันอาจจะไม่ใช่ แผ่นดินไหวใต้ทะเลอย่างที่เราเข้าใจครับ เทคโนโลยีที่เข้าข่ายถ้าไม่เป็น HAARP ก็อาจจะเป็นการทดลองเจ้า Atomic Monster ก็เป็นได้ครับ และทั้งหมดนี้เค้าก็จัดไว้ให้อยู่ในเกมส์ไพ่อิลลูมินาติทั้งหมดแล้ว คำถามก็คือ "เมื่อไหร่" เท่านั้นเองครับ
**** ไพ่ใบนี้ถูกเปิดไปแล้ว ก็คือที่ญี่ปุ่นนั้นเอง ****
Note : ไพ่อีกใบจากเกมส์ไพ่อิลลูมินาติ ก็คือ "Tidal Wave" หรือจะเรียกว่า "ซุปเปอร์ซึนามิ" ก็ได้ครับ เป็น ไพ่อีกใบที่จะทำงานร่วมกับไพ่ใบที่แล้วครับ คือจะเป็นผลจากการทำงานของไพ่ Atomic Monster ที่จะสร้างอำนาจการทำลายล้างอย่างมหาศาลด้วยความสูงของคลื่นจากทะเลซึ่งสูง เท่ากับตึกหลายชั้นครับ ประมาณว่าไม่ต้องวิ่งให้เหนื่อยเพราะยังก็แทบจะหนีไม่ทันถ้าไม่มีระบบการ เตือนภัยที่ดีพอ ถ้าลองกลับไปดูหนัง 2012 อีกซักรอบโดยดูฉากที่คลื่นยักษ์ซัดเข้าถล่มนิวยอร์คและทำเนียบขาวแล้ว ประกอบกับโพสต์ต่อๆไปที่ผมจะอธิบายในเรื่องนี้ จะเข้าใจได้ครับว่ามันไม่ไกลเกินสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นจริงเลยครับ
ผม เริ่มชักสงสัยแล้วครับว่าซึนามิที่เกิดขึ้นทางชายฝั่งอันดามันอาจจะไม่ใช่ แผ่นดินไหวใต้ทะเลอย่างที่เราเข้าใจครับ เทคโนโลยีที่เข้าข่ายถ้าไม่เป็น HAARP ก็อาจจะเป็นการทดลองเจ้า Atomic Monster ก็เป็นได้ครับ และทั้งหมดนี้เค้าก็จัดไว้ให้อยู่ในเกมส์ไพ่อิลลูมินาติทั้งหมดแล้ว คำถามก็คือ "เมื่อไหร่" เท่านั้นเองครับ
**** ไพ่ใบนี้ถูกเปิดไปแล้ว ก็คือที่ญี่ปุ่นนั้นเอง ****
Re: Subliminal Messages การซ่อนข้อความหรือความหมายในที่ต่างๆ???
โพสต์นี้เราจะยังอยู่กับภาพหินแกะสลักของฟาโรห์กันอีกซักหน่อยครับ จริงๆ แล้วยังมี SM ที่ซ่อนไว้ในภาพอีกมากพอสมควร แต่ผมจะนำเสนอเฉพาะจุดที่สำคัญๆ เพื่อให้เราเห็นภาพของโลกใบนี้ได้อย่างชัดเจนขึ้น และภาพสุดท้ายที่ผมจะนำเสนอในส่วนนี้คือภาพของ "งู" ที่ถูกซ่อนไว้ครับ และบริเวณมี่ปลายดินสอชี้อยู่ก็คือหัวของ "งู" ตัวใหญ่ครับ
และทั้งหมดที่นำเสนอไป ก็คือ SM หรือ Subliminal Messages ที่ซ่อนอยู่ในภาพหินแกะสลักของอิยิปต์โบราณครับ ด้วยสาเหตุที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี่เอง เป็นคำตอบที่พี่น้องคริสเตียนหลายคนสงสัยว่าทำไมในชีวิต "คริสเตียน" ของเรา จึงต้องมีการ "Reborn" หรือการเกิดใหม่เป็นครั้งที่ 2 ก็เพื่อทิ้งตัวตนเก่าที่มีเชื้อของความบาปที่ตกทอดมาแต่ครั้งโบราณกาล เพราะคงเป็นการยากที่จะบอกว่าเราสืบเชื้อสายมาจากไหน แต่อย่างนึงที่เรารู้คือ เรามีพระวิญญานของพระเจ้าผู้ทรงสร้างอยู่ในตัวเราแล้วครึ่งนึงครับ
พระองค์จึงพร้อมเสมอที่จะรอรับเรากลับไปเป็นสิ่งที่เรา "เคยเป็น" นั่นก็คือ มนุษย์ "ที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน" ทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาน ตามเจตนาการทรงสร้างของพระองค์ ด้วยการ "Repent" หรือการ "กลับใจ" ทิ้งความเป็นตัวตนสิ่งเก่าๆ ของเราทั้งหมดที่เคยทำมา แล้ว "เริ่มต้นใหม่" ครับ กลับมาเกิดใหม่ด้วย "พระวิญญานบริสุทธิ์" ที่แท้จริงของพระเจ้า เริ่มต้นในแนวทางของพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์ ในลักษณะของ "ความเชื่อและการปฏิบัติ" คือเชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าและพระองค์ลงมาไถ่ชีวิตเราจากความบาปผิด โดยการ "สละชีวิต(อันปราศจากความบาปผิดใดๆ)ของตนเอง" เพื่อชดใช้ความผิดแทนมวลมนุษย์ทั้งปวง
2 โครินธ์ 5 : 17
5:17 เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งเก่าๆก็ล่วงไป ดูเถิด สิ่งสารพัดกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น
5:17 Therefore if any man be in Christ, he is a new creature: old things are passed away; behold, all things are become new.
( อยากฝากสิ่งนึงไปถึงพี่น้องคริสเตียนครับคือ หากมีใครบอกคุณว่า ขอแค่ให้เชื่อเท่านั้นแล้วจะรอด ผมขอยืนยันว่านั่นผิดครับ เพราะชีวิตคริสเตียนคือการ "กลับใจและเปลี่ยนแปลง" เปลี่ยนแม้กระทั่งสิ่งที่คุณคิดว่าคุณไม่สามารถที่จะเปลี่ยนหรือเลิกสิ่งเหล่านั้นได้ ทิ้งความบาปผิดทั้งปวงที่เราเคยทำหรือมีส่วนร่วม โดยเฉพาะความบาปผิดที่เราไม่ได้กระทำแต่ต้องมีส่วนร่วมรับความผิดนั้น หรือความผิดบาปที่ตกทอดจากบรรพบุรุษ แล้วเริ่มต้นใหม่ใน "เส้นทางตรงและทางเดียว" ของพระเจ้าครับ )
และในตอนต่อๆไปของ Subliminal Messages ผมจะเขียนถึง SM " สะท้านโลก " ที่ซ่อนอยู่ในธนบัตรดอลล่าสหรัฐ ทั้งในอดีตและอนาคตครับ ซึ่งอาจจะเป็น "การเริ่มต้น" ของการสิ้นสุดของอีกหนึ่งอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกใบนี้ ณ เวลานี้ นั่นก็คือ "ประเทศสหรัฐอเมริกา" อย่างที่กล่าวไว้ในไบเบิ้ลครับว่า "หินที่วางซ้อนทับกันหรือมหาวิหารจะไม่ถูกทำลายลงก็หามิได้" แล้วมหาวิหารหรือปิระมิดแห่งโลกยุคนี้ก็อยู่ในนี้แล้วครับ
หมายเหตุ : หากท่านใดมีธนบัตรดอลล่าสหรัฐชนิด $10, $20 และ $50 เก็บรวมรวมไว้ในมือก่อนเลยครับ เพราะท่านจะได้อรรถรสในการรับชมมากกว่าปกติครับ
โพสต์โดย What's going on in America
วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
Subliminal Messages.......5 of
ในโพสต์ที่แล้วเป็น "ความน่าสะอิดสะเอียน" หรือ SM เพียงบางส่วนที่ซ่อนอยู่ในภาพหินแกะสลักที่ประดิษฐานอยู่ใน "พระวิหาร" ที่ต้อง "ถูกทำลายลง" จนต้องกลายเป็น "ความรกร้างว่างเปล่า" ครับ
มัธธิว 24 : 1-2
การพยากรณ์ถึงการทำลายพระวิหาร (มก 13:1-13; ลก 21:5-19)
24:1 ฝ่ายพระเยซูทรงออกจากพระวิหาร แล้วพวกสาวกของพระองค์มาชี้ตึกทั้งหลายของพระวิหารให้พระองค์ทอดพระเนตร
Olivet Discourse: Destruction of the Temple (Mark 13:1-13; Luke 21:5-19)
24:1 And Jesus went out, and departed from the temple: and his disciples came to him for to shew him the buildings of the temple.
24:2 พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า "สิ่งสารพัดเหล่านี้พวกท่านเห็นแล้วมิใช่หรือ เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ศิลาที่ซ้อนทับกันอยู่ที่นี่ ซึ่งจะไม่ถูกทำลายลงก็หามิได้"
24:2 And Jesus said unto them, See ye not all these things? verily I say unto you, There shall not be left here one stone upon another, that shall not be thrown down
มัธธิว 24 : 15
ความทุกข์เวทนาใหญ่ยิ่ง (มก 13:14-23)
24:15 เหตุฉะนั้น เมื่อท่านทั้งหลายเห็น "สิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน" ซึ่งกระทำให้เกิด "การรกร้างว่างเปล่า" ที่ดาเนียลศาสดาพยากรณ์ได้กล่าวถึงนั้น ตั้งอยู่ในสถานบริสุทธิ์" (ผู้ใดก็ตามที่ได้อ่านก็ให้ผู้นั้นเข้าใจเอาเถิด)
The Great Tribulation (Mark 13:14-23)
24:15 When ye therefore shall see the abomination of desolation, spoken of by Daniel the prophet, stand in the holy place, (whoso readeth, let him understand
ลองมาดูที่ภาพของฟาโรห์กันบ้างครับ เพราะเค้าได้ซ่อนสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน "กว่า" ไว้ เรียกได้ว่าอาจจะเหนือกว่าจินตนาของเราๆ ท่านๆ ครับ เริ่มจากส่วนหัวของฟาโรห์ครับ ผมจะค่อยๆ เน้นเข้าไปทีละภาพครับ เพื่อให้เห็น "The Fallen Angel" ซึ่งก็คือเอเลี่ยนนั่นเองครับ
ส่วนต่อไปก็ เรามาดูครับเจ้าเอเลี่ยน หรือ "The Fallen" ตนนี้ได้ "สมสู่" กับบุตรมนุษย์ โดยในภาพที่ 3 จะสื่อถึงอวัยวะเพศ "ชาย" และในภาพที่ 4 จะสื่อถึงอวัยเพศ "หญิง" ของบุตรมนุษย์
ปฐมกาล 6 : 2 และ 6 : 4
6:2 บุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าเห็นว่าบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์สวยงาม และพวกเขารับเธอทั้งหลายไว้เป็นภรรยาตามชอบใจของพวกเขา
6:2 That the sons of God saw the daughters of men that they were fair; and they took them wives of all which they chose.
6:4 ในคราวนั้นมีพวกมนุษย์ยักษ์บนแผ่นดินโลก แล้วภายหลังเมื่อบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าเข้าหาบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์ และเธอทั้งหลายคลอดบุตรให้แก่พวกเขา บุตรเหล่านั้นเป็นคนมีอำนาจมาก ตั้งแต่สมัยโบราณเป็นคนมีชื่อเสียง
6:4 There were giants in the earth in those days; and also after that, when the sons of God came in unto the daughters of men, and they bare children to them, the same became mighty men which were of old, men of renown.
อีกทั้งยังซ่อนภาพ "การสมสู่" ไว้อย่างชัดเจนครับ รูปนี้คงต้องใช้การสังเกตุมากหน่อยครับ จะเป็นภาพของผู้หญิงกำลังก้มมาข้างหน้าในขณะที่กำลัง...อยู่ ภาพต่อไปจะเห็นชัดเจนขึ้นครับ
1 & 2 คือ สะโพกทั้ง 2 ด้าน ของผู้หญิง
3 คือ ส่วนหัวคือผม หน้าผาก ลงมาเป็นใบหน้าและปาก
4 คือ ผมที่ยาวลงมาถึงพื้น
5 คือ หน้าอก
6 & 7 คือขาทั้ง 2 ข้างที่ยื่นไปด้านหลัง
และทั้งหมดทั้งสิ้นที่เกิดขึ้นนี้ก็สิงสถิตย์อยู่ในร่างของฟาโรห์ ซึ่งเป็นบุรุษผู้ทรงอำนาจที่สุดของโลกในยุคนั้น เป็นไปตามพระวัจนะที่พระคำภีร์เขียนไว้ทุกประการในห้วงเวลาหลายพันปีที่ผ่านมา........
ลองกลับไปค้นดูหนังซักเรื่องนึงสิครับ คือเรื่อง "สตาร์เกท" เค้าพยายามบอกเราแล้วในหนังเรื่องนั้นครับ
ปฐมกาล 6 : 4
6:4 ในคราวนั้นมีพวกมนุษย์ยักษ์บนแผ่นดินโลก แล้วภายหลังเมื่อบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าเข้าหาบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์ และเธอทั้งหลายคลอดบุตรให้แก่พวกเขา บุตรเหล่านั้นเป็นคนมีอำนาจมาก ตั้งแต่สมัยโบราณเป็นคนมีชื่อเสียง
6:4 There were giants in the earth in those days; and also after that, when the sons of God came in unto the daughters of men, and they bare children to them, the same became mighty men which were of old, men of renown.
แปลกไม๊ครับที่มนุษย์เรายังคงตามหาเอเลี่ยน หรือสิ่งมีชีวิตนอกโลกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งไม่เคยรู้เลยว่า อสูรตนนี้เป็นส่วนหนึ่งและแอบแฝงอยู่ในร่างกายของมนุษย์เรามาตลอดหลายพันปี รู้สึกไม๊ครับว่าทำไมหลายๆ ครั้งที่เราทำอะไรลงไปโดยสัญชาติญาน เราสร้างบาป ทำความผิดอยู่ตลอดเวลาโดยตัวเราเอง และบางสิ่งบางอย่างที่มีอิทธิพลต่อตัวเราโดยที่เราก็ไม่เข้าใจว่าเราทำไปทำไมหรือทำไปได้อย่างไร ส่วนที่ซ่อนอยู่นี่แหละครับคือ "ด้านมืด" ของมนุษย์ที่ยากต่อการอธิบาย ความโลภ ความโกรธ ความหลง การเอารัดเอาเปรียบ กิเลส ตัณหา การทำลายล้าง ความอยากในรูปแบบต่างๆ มันฝังอยู่ในตัวเราครับ
เราทำผิดได้เสมอโดยที่ไม่ต้องมีใครมาสอน แต่การทำความดีกลับกลายเป็นสิ่งที่ยากแสนยาก เพราะครึ่งหนึ่งของร่างกายและจิตวิญญานของมนุษย์มีความบาปผิดผสมอยู่นั่นเองครับ
มาถึงตอนนี้คงจะเข้าใจแล้วนะครับว่าทำไมไบเบิ้ล ถึงต้องใช้คำว่า "ความน่าสะอิดสะเอียน" และความน่าสะอิดสะเอียนนี้แหละครับที่จะนำไปสู่การทำลายพระวิหาร ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาพระวิหารที่มี "ปิระมิด" เป็นสัญลักษณ์ ก็ได้ถูกทำลายลงไปทีละอาณาจักรตามกาลเวลา และที่สำคัญตาม "ความบาปผิดและความเสื่อมทราม" ของจิตใจมนุษย์ในอาณาจักรนั้นๆ
และทั้งหมดที่นำเสนอไป ก็คือ SM หรือ Subliminal Messages ที่ซ่อนอยู่ในภาพหินแกะสลักของอิยิปต์โบราณครับ ด้วยสาเหตุที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี่เอง เป็นคำตอบที่พี่น้องคริสเตียนหลายคนสงสัยว่าทำไมในชีวิต "คริสเตียน" ของเรา จึงต้องมีการ "Reborn" หรือการเกิดใหม่เป็นครั้งที่ 2 ก็เพื่อทิ้งตัวตนเก่าที่มีเชื้อของความบาปที่ตกทอดมาแต่ครั้งโบราณกาล เพราะคงเป็นการยากที่จะบอกว่าเราสืบเชื้อสายมาจากไหน แต่อย่างนึงที่เรารู้คือ เรามีพระวิญญานของพระเจ้าผู้ทรงสร้างอยู่ในตัวเราแล้วครึ่งนึงครับ
พระองค์จึงพร้อมเสมอที่จะรอรับเรากลับไปเป็นสิ่งที่เรา "เคยเป็น" นั่นก็คือ มนุษย์ "ที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน" ทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาน ตามเจตนาการทรงสร้างของพระองค์ ด้วยการ "Repent" หรือการ "กลับใจ" ทิ้งความเป็นตัวตนสิ่งเก่าๆ ของเราทั้งหมดที่เคยทำมา แล้ว "เริ่มต้นใหม่" ครับ กลับมาเกิดใหม่ด้วย "พระวิญญานบริสุทธิ์" ที่แท้จริงของพระเจ้า เริ่มต้นในแนวทางของพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์ ในลักษณะของ "ความเชื่อและการปฏิบัติ" คือเชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าและพระองค์ลงมาไถ่ชีวิตเราจากความบาปผิด โดยการ "สละชีวิต(อันปราศจากความบาปผิดใดๆ)ของตนเอง" เพื่อชดใช้ความผิดแทนมวลมนุษย์ทั้งปวง
2 โครินธ์ 5 : 17
5:17 เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งเก่าๆก็ล่วงไป ดูเถิด สิ่งสารพัดกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น
5:17 Therefore if any man be in Christ, he is a new creature: old things are passed away; behold, all things are become new.
( อยากฝากสิ่งนึงไปถึงพี่น้องคริสเตียนครับคือ หากมีใครบอกคุณว่า ขอแค่ให้เชื่อเท่านั้นแล้วจะรอด ผมขอยืนยันว่านั่นผิดครับ เพราะชีวิตคริสเตียนคือการ "กลับใจและเปลี่ยนแปลง" เปลี่ยนแม้กระทั่งสิ่งที่คุณคิดว่าคุณไม่สามารถที่จะเปลี่ยนหรือเลิกสิ่งเหล่านั้นได้ ทิ้งความบาปผิดทั้งปวงที่เราเคยทำหรือมีส่วนร่วม โดยเฉพาะความบาปผิดที่เราไม่ได้กระทำแต่ต้องมีส่วนร่วมรับความผิดนั้น หรือความผิดบาปที่ตกทอดจากบรรพบุรุษ แล้วเริ่มต้นใหม่ใน "เส้นทางตรงและทางเดียว" ของพระเจ้าครับ )
และในตอนต่อๆไปของ Subliminal Messages ผมจะเขียนถึง SM " สะท้านโลก " ที่ซ่อนอยู่ในธนบัตรดอลล่าสหรัฐ ทั้งในอดีตและอนาคตครับ ซึ่งอาจจะเป็น "การเริ่มต้น" ของการสิ้นสุดของอีกหนึ่งอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกใบนี้ ณ เวลานี้ นั่นก็คือ "ประเทศสหรัฐอเมริกา" อย่างที่กล่าวไว้ในไบเบิ้ลครับว่า "หินที่วางซ้อนทับกันหรือมหาวิหารจะไม่ถูกทำลายลงก็หามิได้" แล้วมหาวิหารหรือปิระมิดแห่งโลกยุคนี้ก็อยู่ในนี้แล้วครับ
หมายเหตุ : หากท่านใดมีธนบัตรดอลล่าสหรัฐชนิด $10, $20 และ $50 เก็บรวมรวมไว้ในมือก่อนเลยครับ เพราะท่านจะได้อรรถรสในการรับชมมากกว่าปกติครับ
โพสต์โดย What's going on in America
วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
Subliminal Messages.......5 of
ในโพสต์ที่แล้วเป็น "ความน่าสะอิดสะเอียน" หรือ SM เพียงบางส่วนที่ซ่อนอยู่ในภาพหินแกะสลักที่ประดิษฐานอยู่ใน "พระวิหาร" ที่ต้อง "ถูกทำลายลง" จนต้องกลายเป็น "ความรกร้างว่างเปล่า" ครับ
มัธธิว 24 : 1-2
การพยากรณ์ถึงการทำลายพระวิหาร (มก 13:1-13; ลก 21:5-19)
24:1 ฝ่ายพระเยซูทรงออกจากพระวิหาร แล้วพวกสาวกของพระองค์มาชี้ตึกทั้งหลายของพระวิหารให้พระองค์ทอดพระเนตร
Olivet Discourse: Destruction of the Temple (Mark 13:1-13; Luke 21:5-19)
24:1 And Jesus went out, and departed from the temple: and his disciples came to him for to shew him the buildings of the temple.
24:2 พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า "สิ่งสารพัดเหล่านี้พวกท่านเห็นแล้วมิใช่หรือ เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ศิลาที่ซ้อนทับกันอยู่ที่นี่ ซึ่งจะไม่ถูกทำลายลงก็หามิได้"
24:2 And Jesus said unto them, See ye not all these things? verily I say unto you, There shall not be left here one stone upon another, that shall not be thrown down
มัธธิว 24 : 15
ความทุกข์เวทนาใหญ่ยิ่ง (มก 13:14-23)
24:15 เหตุฉะนั้น เมื่อท่านทั้งหลายเห็น "สิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน" ซึ่งกระทำให้เกิด "การรกร้างว่างเปล่า" ที่ดาเนียลศาสดาพยากรณ์ได้กล่าวถึงนั้น ตั้งอยู่ในสถานบริสุทธิ์" (ผู้ใดก็ตามที่ได้อ่านก็ให้ผู้นั้นเข้าใจเอาเถิด)
The Great Tribulation (Mark 13:14-23)
24:15 When ye therefore shall see the abomination of desolation, spoken of by Daniel the prophet, stand in the holy place, (whoso readeth, let him understand
ลองมาดูที่ภาพของฟาโรห์กันบ้างครับ เพราะเค้าได้ซ่อนสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน "กว่า" ไว้ เรียกได้ว่าอาจจะเหนือกว่าจินตนาของเราๆ ท่านๆ ครับ เริ่มจากส่วนหัวของฟาโรห์ครับ ผมจะค่อยๆ เน้นเข้าไปทีละภาพครับ เพื่อให้เห็น "The Fallen Angel" ซึ่งก็คือเอเลี่ยนนั่นเองครับ
ส่วนต่อไปก็ เรามาดูครับเจ้าเอเลี่ยน หรือ "The Fallen" ตนนี้ได้ "สมสู่" กับบุตรมนุษย์ โดยในภาพที่ 3 จะสื่อถึงอวัยวะเพศ "ชาย" และในภาพที่ 4 จะสื่อถึงอวัยเพศ "หญิง" ของบุตรมนุษย์
ปฐมกาล 6 : 2 และ 6 : 4
6:2 บุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าเห็นว่าบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์สวยงาม และพวกเขารับเธอทั้งหลายไว้เป็นภรรยาตามชอบใจของพวกเขา
6:2 That the sons of God saw the daughters of men that they were fair; and they took them wives of all which they chose.
6:4 ในคราวนั้นมีพวกมนุษย์ยักษ์บนแผ่นดินโลก แล้วภายหลังเมื่อบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าเข้าหาบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์ และเธอทั้งหลายคลอดบุตรให้แก่พวกเขา บุตรเหล่านั้นเป็นคนมีอำนาจมาก ตั้งแต่สมัยโบราณเป็นคนมีชื่อเสียง
6:4 There were giants in the earth in those days; and also after that, when the sons of God came in unto the daughters of men, and they bare children to them, the same became mighty men which were of old, men of renown.
อีกทั้งยังซ่อนภาพ "การสมสู่" ไว้อย่างชัดเจนครับ รูปนี้คงต้องใช้การสังเกตุมากหน่อยครับ จะเป็นภาพของผู้หญิงกำลังก้มมาข้างหน้าในขณะที่กำลัง...อยู่ ภาพต่อไปจะเห็นชัดเจนขึ้นครับ
1 & 2 คือ สะโพกทั้ง 2 ด้าน ของผู้หญิง
3 คือ ส่วนหัวคือผม หน้าผาก ลงมาเป็นใบหน้าและปาก
4 คือ ผมที่ยาวลงมาถึงพื้น
5 คือ หน้าอก
6 & 7 คือขาทั้ง 2 ข้างที่ยื่นไปด้านหลัง
และทั้งหมดทั้งสิ้นที่เกิดขึ้นนี้ก็สิงสถิตย์อยู่ในร่างของฟาโรห์ ซึ่งเป็นบุรุษผู้ทรงอำนาจที่สุดของโลกในยุคนั้น เป็นไปตามพระวัจนะที่พระคำภีร์เขียนไว้ทุกประการในห้วงเวลาหลายพันปีที่ผ่านมา........
ลองกลับไปค้นดูหนังซักเรื่องนึงสิครับ คือเรื่อง "สตาร์เกท" เค้าพยายามบอกเราแล้วในหนังเรื่องนั้นครับ
ปฐมกาล 6 : 4
6:4 ในคราวนั้นมีพวกมนุษย์ยักษ์บนแผ่นดินโลก แล้วภายหลังเมื่อบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าเข้าหาบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์ และเธอทั้งหลายคลอดบุตรให้แก่พวกเขา บุตรเหล่านั้นเป็นคนมีอำนาจมาก ตั้งแต่สมัยโบราณเป็นคนมีชื่อเสียง
6:4 There were giants in the earth in those days; and also after that, when the sons of God came in unto the daughters of men, and they bare children to them, the same became mighty men which were of old, men of renown.
แปลกไม๊ครับที่มนุษย์เรายังคงตามหาเอเลี่ยน หรือสิ่งมีชีวิตนอกโลกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งไม่เคยรู้เลยว่า อสูรตนนี้เป็นส่วนหนึ่งและแอบแฝงอยู่ในร่างกายของมนุษย์เรามาตลอดหลายพันปี รู้สึกไม๊ครับว่าทำไมหลายๆ ครั้งที่เราทำอะไรลงไปโดยสัญชาติญาน เราสร้างบาป ทำความผิดอยู่ตลอดเวลาโดยตัวเราเอง และบางสิ่งบางอย่างที่มีอิทธิพลต่อตัวเราโดยที่เราก็ไม่เข้าใจว่าเราทำไปทำไมหรือทำไปได้อย่างไร ส่วนที่ซ่อนอยู่นี่แหละครับคือ "ด้านมืด" ของมนุษย์ที่ยากต่อการอธิบาย ความโลภ ความโกรธ ความหลง การเอารัดเอาเปรียบ กิเลส ตัณหา การทำลายล้าง ความอยากในรูปแบบต่างๆ มันฝังอยู่ในตัวเราครับ
เราทำผิดได้เสมอโดยที่ไม่ต้องมีใครมาสอน แต่การทำความดีกลับกลายเป็นสิ่งที่ยากแสนยาก เพราะครึ่งหนึ่งของร่างกายและจิตวิญญานของมนุษย์มีความบาปผิดผสมอยู่นั่นเองครับ
มาถึงตอนนี้คงจะเข้าใจแล้วนะครับว่าทำไมไบเบิ้ล ถึงต้องใช้คำว่า "ความน่าสะอิดสะเอียน" และความน่าสะอิดสะเอียนนี้แหละครับที่จะนำไปสู่การทำลายพระวิหาร ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาพระวิหารที่มี "ปิระมิด" เป็นสัญลักษณ์ ก็ได้ถูกทำลายลงไปทีละอาณาจักรตามกาลเวลา และที่สำคัญตาม "ความบาปผิดและความเสื่อมทราม" ของจิตใจมนุษย์ในอาณาจักรนั้นๆ
Re: Subliminal Messages การซ่อนข้อความหรือความหมายในที่ต่างๆ???
เรื่อง SM นี่คงจะทำให้เรามองเห็นอะไรที่ซ่อนตัว มีอิทธิพลและเป็นทำงานอยู่เบื้องหลังจิตวิญญานของมนุษย์ในยุคนั้นๆ ได้เป็นอย่างดีครับ และในทุกอริยะธรรมจะมีเรื่องที่เป็นปริศนาที่ทิ้งไว้มาจนถึงวันนี้ เช่น เรื่องของศิลาจารึกหรือภาพเขียนสีบนผนังหินที่เขียนเล่าเรื่องราวของ มนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะแตกต่างออกไปจากที่มนุษย์เราเป็น มีเขาบ้าง มีปีกบ้าง ลอยอยู่บนฟ้าบ้าง และกลายไปเป็นเจ้าผู้ครองอริยะธรรมนั้นในที่สุด เพราะฉะนั้นเป็นการยากจะปฏิเสธครับว่าสิ่งเหล่านั้นไม่มีจริง แต่ก็ไม่มีคำอธิบายใดๆ มากกว่านั้น อีกเรื่องคือสถาปัตยกรรมโบราณต่างๆ ที่ถูกสร้างขึ้นในยุคนั้นๆ ซึ่งเครื่องไม้ เครื่องมือ หรือเทคโนโลยีที่ใช้สร้างแทบจะพูดไม่ได้เลยว่าเป็นผลงานของมนุษย์ที่อยู่ในช่วงเวลาหรือในอริยะธรรมนั้นๆ
ตอนนี้เราจะมาดู SM ที่ล้ำลึกชุดนึงครับที่ซ่อนไว้ในภาพหินสลักบนกำแหงของพระวิหารย์แห่งหนึ่งของฟาโรห์ในประเทศอิยิปต์ เป็นภาพสลักของฟาโรห์อเคเนตัน (Akhenaten) และราชินีเนเฟอติติ (Nefertiti) ....link และในภาพสลักนี้แหละครับมีการซ่อน SM หรือ "สิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน" ที่พระคัมภีร์ไบเบิ้ลได้พยากรณ์ไว้อย่างมากมาย ทั้งสิ่งที่เราเรียกว่าเอเลี่ยนหรือสิ่งมีชีวิตต่างภิภพ และการกำเนิดของมนุษย์พันธุ์ผสม มนุษย์ยักษ์หลายเผ่าพันธุ์พันธ์ที่กระจายไปสร้างอริยะธรรมต่างๆทั่วพื้นภิภพ
และทั้งหมดต่อไปนี้ครับ คือการเปิดเผยถึงสิ่งที่ถูกซ่อนไว้ใน ดาเนียล 9:23 มัธธิว 24:15 มาระโก 13:14 และลูกา 21:20
มัทธิว 24:15
ความทุกข์เวทนาใหญ่ยิ่ง (มก 13:14-23)
24:15 เหตุฉะนั้น เมื่อท่านทั้งหลายเห็น "สิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน" ซึ่งกระทำให้เกิดการรกร้างว่างเปล่า ที่ดาเนียลศาสดาพยากรณ์ได้กล่าวถึงนั้น ตั้งอยู่ในสถานบริสุทธิ์" (ผู้ใดก็ตามที่ได้อ่านก็ให้ผู้นั้นเข้าใจเอาเถิด)
The Great Tribulation (Mark 13:14-23)
24:15 When ye therefore shall see the abomination of desolation, spoken of by Daniel the prophet, stand in the holy place, (whoso readeth, let him understand
ซึ่งเมื่อสิ่งนี้ถูกเปิดเผยแล้วก็จะเป็นการเริ่มต้นของ "ความทุกข์เวทนาครั้งยิ่งใหญ่" หรือ The Great Tribulation ที่กำลังจะมาถึงนั่นเองครับ
24:6 ท่านทั้งหลายจะได้ยินถึงเรื่องสงครามและข่าวลือเรื่องสงคราม คอยระวังอย่าตื่นตระหนกเลย ด้วยว่าบรรดาสิ่งเหล่านี้จำต้องบังเกิดขึ้น แต่ที่สุดปลายยังไม่มาถึง
24:6 And ye shall hear of wars and rumours of wars: see that ye be not troubled: for all these things must come to pass, but the end is not yet.
24:7 เพราะประชาชาติจะลุกขึ้นต่อสู้ประชาชาติ ราชอาณาจักรต่อสู้ราชอาณาจักร ทั้งจะเกิดกันดารอาหารและโรคระบาดอย่างร้ายแรงและแผ่นดินไหวในที่ต่างๆ
24:7 For nation shall rise against nation, and kingdom against kingdom: and there shall be famines, and pestilences, and earthquakes, in divers places.
24:8 เหตุการณ์ทั้งปวงนี้เป็นขั้นแรกแห่งความทุกข์ลำบาก
24:8 All these are the beginning of sorrows.
24:9 ในเวลานั้นเขาจะมอบท่านทั้งหลายไว้ให้ทนทุกข์ลำบากและจะฆ่าท่านเสีย และประชาชาติต่างๆจะเกลียดชังพวกท่านเพราะนามของเรา
24:9 Then shall they deliver you up to be afflicted, and shall kill you: and ye shall be hated of all nations for my name's sake.
24:10 คราวนั้นคนเป็นอันมากจะถดถอยไปและทรยศกันและกัน ทั้งจะเกลียดชังซึ่งกันและกัน
24:10 And then shall many be offended, and shall betray one another, and shall hate one another.
24:11 จะมีผู้พยากรณ์เท็จหลายคนเกิดขึ้นและล่อลวงคนเป็นอันมากให้หลงไป
24:11 And many false prophets shall rise, and shall deceive many.
24:12 ความรักของคนเป็นอันมากจะเยือกเย็นลง เพราะความชั่วช้าจะแผ่ขยายออกไป
24:12 And because iniquity shall abound, the love of many shall wax cold.
24:13 แต่ผู้ที่ทนได้จนถึงที่สุด ผู้นั้นจะรอด
24:13 But he that shall endure unto the end, the same shall be saved.
มาดูกันที่จุดแรกคือภาพใบหน้าของราชินีเนเฟอร์ตีติที่ด้านบนขวาครับ
ซึ่งถ้าเรานำภาพมากลับหรือมาเปลี่ยนมุมดู เราจะห็นเป็นภาพส่วนหัวของแกะที่ "ตาย" แล้ว ซึ่งในทางพระคัมภีร์ "แกะ" ก็คือพวกเราหรือมนุษย์นั่นเอง อย่างที่เราเคยได้ยินคำว่า "Lambs of God" ครับ แกะที่ตายแล้วก็คือเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่พระเจ้าทรงสร้างได้สูญพันธุ์หรือได้สิ้นสุดไปแล้วนั่นเองครับ
ลองมือปิดส่วนที่อยู่ด้านขวาของภาพ แล้วภาพที่เราจะได้คือภาพใบหน้าส่วนหัวของ Devil หรือภาพปีศาจกำลังยิ้มให้กับเราครับ โดยดินสอกำลังชี้ที่ตา
ในขณะที่อีกครึ่งนึงก็ยังคงเป็นแกะที่มีลักษณะเหมือนครึ่งคนครึ่งแกะ
SN ที่ซ่อนอยู่ก็คือ "แกะ" หรือ "มนุษย์" ที่มาจากการทรงสร้างของพระเจ้าได้ตายลงหรือสูญสลายไป แต่ได้เกิดสิ่งใหม่ขึ้นคือ "ครึ่งมนุษย์ครึ่งอสูร" นั่นเองครับ ส่วนการเกิดและที่มาของเผ่าพันธุ์ใหม่นี้ก็ซ่อนอยู่ในภาพนี้เช่นเดียวกันครับ
อสูรกายที่เกิดขึ้นก็คือ "มนุษย์ยักษ์" ที่อยู่ในตำนาน โดยมีการจารึกและบอกเล่าเรื่องราวจากเกือบทุกอริยะธรรมทั่วโลก โดยมีการบันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิ้ล ปฐมกาล 6:1-7
ความชั่วของมนุษยชาติ
6:1 ต่อมาเมื่อมนุษย์เริ่มทวีมากขึ้นบนพื้นแผ่นดินโลก และพวกเขาให้กำเนิดบุตรสาวหลายคน
Wickedness of Man
6:1 And it came to pass, when men began to multiply on the face of the earth, and daughters were born unto them,
6:2 บุตรชายทั้งหลายของพระเจ้า (Fallen Angel หรือกลุ่ม The Watcher) เห็นว่าบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์สวยงาม และพวกเขารับเธอทั้งหลายไว้เป็นภรรยาตามชอบใจของพวกเขา
6:2 That the sons of God saw the daughters of men that they were fair; and they took them wives of all which they chose.
คำเตือนของพระเจ้าถึงการพิพากษา
6:3 พระเยโฮวาห์ตรัสว่า "วิญญาณของเราจะไม่วิงวอนกับมนุษย์ตลอดไป เพราะเขาเป็นแต่เนื้อหนัง อายุของเขาจะเพียงแค่ร้อยยี่สิบปี"
God's Warning of the Coming Judgment
6:3 And the LORD said, My spirit shall not always strive with man, for that he also is flesh: yet his days shall be an hundred and twenty years.
6:4 ในคราวนั้นมีพวก***มนุษย์ยักษ์***บนแผ่นดินโลก แล้วภายหลังเมื่อบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าเข้าหาบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์ และเธอทั้งหลายคลอดบุตรให้แก่พวกเขา บุตรเหล่านั้นเป็นคนมีอำนาจมาก ตั้งแต่สมัยโบราณเป็นคนมีชื่อเสียง
6:4 There were giants in the earth in those days; and also after that, when the sons of God came in unto the daughters of men, and they bare children to them, the same became mighty men which were of old, men of renown.
6:5 และพระเจ้าทรงเห็นว่าความชั่วของมนุษย์มีมากบนแผ่นดินโลก และเจตนาทุกอย่างแห่งความคิดทั้งหลายในใจของเขาล้วนแต่ชั่วร้ายอย่างเดียวเสมอไป
6:5 And GOD saw that the wickedness of man was great in the earth, and that every imagination of the thoughts of his heart was only evil continually.
6:6 พระเยโฮวาห์ทรงโทมนัสที่พระองค์ได้ทรงสร้างมนุษย์บนแผ่นดินโลก และกระทำให้พระองค์ทรงเศร้าโศกภายในพระทัยของพระองค์
6:6 And it repented the LORD that he had made man on the earth, and it grieved him at his heart.
6:7 พระเยโฮวาห์ตรัสว่า "เราจะทำลายมนุษย์ที่เราได้สร้างมาจากพื้นแผ่นดินโลก ทั้งมนุษย์และสัตว์และสัตว์เลื้อยคลานและนกในอากาศ เพราะว่าเราเสียใจที่เราได้สร้างพวกเขามา"
6:7 And the LORD said, I will destroy man whom I have created from the face of the earth; both man, and beast, and the creeping thing, and the fowls of the air; for it repenteth me that I have made them.
ด้วยสาเหตุนี้จึงเป็นที่มาของการ "ชำระล้าง" โลกมนุษย์ในรอบแรกด้วย"น้ำ" นั่นก็คือสาเหตุและที่มาของเหตุการณ์ "น้ำท่วมโลกและเรือโนอาห์" ที่ถูกบันทึกไว้นั่นเองครับ (หลักฐานการค้นพบเรือโนอาห์ซึ่งถูกน้ำแข็งปกคลุมไว้ ที่ความสูง 14,000 ฟุต บนเทือกเขาอารารัต ในประเทศตุรกี...Click )" target="_blank">(หลักฐานการค้นพบเรือโนอาห์ซึ่งถูกน้ำแข็งปกคลุมไว้ ที่ความสูง 14,000 ฟุต บนเทือกเขาอารารัต ในประเทศตุรกี...Click )
ตอนนี้เราจะมาดู SM ที่ล้ำลึกชุดนึงครับที่ซ่อนไว้ในภาพหินสลักบนกำแหงของพระวิหารย์แห่งหนึ่งของฟาโรห์ในประเทศอิยิปต์ เป็นภาพสลักของฟาโรห์อเคเนตัน (Akhenaten) และราชินีเนเฟอติติ (Nefertiti) ....link และในภาพสลักนี้แหละครับมีการซ่อน SM หรือ "สิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน" ที่พระคัมภีร์ไบเบิ้ลได้พยากรณ์ไว้อย่างมากมาย ทั้งสิ่งที่เราเรียกว่าเอเลี่ยนหรือสิ่งมีชีวิตต่างภิภพ และการกำเนิดของมนุษย์พันธุ์ผสม มนุษย์ยักษ์หลายเผ่าพันธุ์พันธ์ที่กระจายไปสร้างอริยะธรรมต่างๆทั่วพื้นภิภพ
และทั้งหมดต่อไปนี้ครับ คือการเปิดเผยถึงสิ่งที่ถูกซ่อนไว้ใน ดาเนียล 9:23 มัธธิว 24:15 มาระโก 13:14 และลูกา 21:20
มัทธิว 24:15
ความทุกข์เวทนาใหญ่ยิ่ง (มก 13:14-23)
24:15 เหตุฉะนั้น เมื่อท่านทั้งหลายเห็น "สิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน" ซึ่งกระทำให้เกิดการรกร้างว่างเปล่า ที่ดาเนียลศาสดาพยากรณ์ได้กล่าวถึงนั้น ตั้งอยู่ในสถานบริสุทธิ์" (ผู้ใดก็ตามที่ได้อ่านก็ให้ผู้นั้นเข้าใจเอาเถิด)
The Great Tribulation (Mark 13:14-23)
24:15 When ye therefore shall see the abomination of desolation, spoken of by Daniel the prophet, stand in the holy place, (whoso readeth, let him understand
ซึ่งเมื่อสิ่งนี้ถูกเปิดเผยแล้วก็จะเป็นการเริ่มต้นของ "ความทุกข์เวทนาครั้งยิ่งใหญ่" หรือ The Great Tribulation ที่กำลังจะมาถึงนั่นเองครับ
24:6 ท่านทั้งหลายจะได้ยินถึงเรื่องสงครามและข่าวลือเรื่องสงคราม คอยระวังอย่าตื่นตระหนกเลย ด้วยว่าบรรดาสิ่งเหล่านี้จำต้องบังเกิดขึ้น แต่ที่สุดปลายยังไม่มาถึง
24:6 And ye shall hear of wars and rumours of wars: see that ye be not troubled: for all these things must come to pass, but the end is not yet.
24:7 เพราะประชาชาติจะลุกขึ้นต่อสู้ประชาชาติ ราชอาณาจักรต่อสู้ราชอาณาจักร ทั้งจะเกิดกันดารอาหารและโรคระบาดอย่างร้ายแรงและแผ่นดินไหวในที่ต่างๆ
24:7 For nation shall rise against nation, and kingdom against kingdom: and there shall be famines, and pestilences, and earthquakes, in divers places.
24:8 เหตุการณ์ทั้งปวงนี้เป็นขั้นแรกแห่งความทุกข์ลำบาก
24:8 All these are the beginning of sorrows.
24:9 ในเวลานั้นเขาจะมอบท่านทั้งหลายไว้ให้ทนทุกข์ลำบากและจะฆ่าท่านเสีย และประชาชาติต่างๆจะเกลียดชังพวกท่านเพราะนามของเรา
24:9 Then shall they deliver you up to be afflicted, and shall kill you: and ye shall be hated of all nations for my name's sake.
24:10 คราวนั้นคนเป็นอันมากจะถดถอยไปและทรยศกันและกัน ทั้งจะเกลียดชังซึ่งกันและกัน
24:10 And then shall many be offended, and shall betray one another, and shall hate one another.
24:11 จะมีผู้พยากรณ์เท็จหลายคนเกิดขึ้นและล่อลวงคนเป็นอันมากให้หลงไป
24:11 And many false prophets shall rise, and shall deceive many.
24:12 ความรักของคนเป็นอันมากจะเยือกเย็นลง เพราะความชั่วช้าจะแผ่ขยายออกไป
24:12 And because iniquity shall abound, the love of many shall wax cold.
24:13 แต่ผู้ที่ทนได้จนถึงที่สุด ผู้นั้นจะรอด
24:13 But he that shall endure unto the end, the same shall be saved.
มาดูกันที่จุดแรกคือภาพใบหน้าของราชินีเนเฟอร์ตีติที่ด้านบนขวาครับ
ซึ่งถ้าเรานำภาพมากลับหรือมาเปลี่ยนมุมดู เราจะห็นเป็นภาพส่วนหัวของแกะที่ "ตาย" แล้ว ซึ่งในทางพระคัมภีร์ "แกะ" ก็คือพวกเราหรือมนุษย์นั่นเอง อย่างที่เราเคยได้ยินคำว่า "Lambs of God" ครับ แกะที่ตายแล้วก็คือเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่พระเจ้าทรงสร้างได้สูญพันธุ์หรือได้สิ้นสุดไปแล้วนั่นเองครับ
ลองมือปิดส่วนที่อยู่ด้านขวาของภาพ แล้วภาพที่เราจะได้คือภาพใบหน้าส่วนหัวของ Devil หรือภาพปีศาจกำลังยิ้มให้กับเราครับ โดยดินสอกำลังชี้ที่ตา
ในขณะที่อีกครึ่งนึงก็ยังคงเป็นแกะที่มีลักษณะเหมือนครึ่งคนครึ่งแกะ
SN ที่ซ่อนอยู่ก็คือ "แกะ" หรือ "มนุษย์" ที่มาจากการทรงสร้างของพระเจ้าได้ตายลงหรือสูญสลายไป แต่ได้เกิดสิ่งใหม่ขึ้นคือ "ครึ่งมนุษย์ครึ่งอสูร" นั่นเองครับ ส่วนการเกิดและที่มาของเผ่าพันธุ์ใหม่นี้ก็ซ่อนอยู่ในภาพนี้เช่นเดียวกันครับ
อสูรกายที่เกิดขึ้นก็คือ "มนุษย์ยักษ์" ที่อยู่ในตำนาน โดยมีการจารึกและบอกเล่าเรื่องราวจากเกือบทุกอริยะธรรมทั่วโลก โดยมีการบันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิ้ล ปฐมกาล 6:1-7
ความชั่วของมนุษยชาติ
6:1 ต่อมาเมื่อมนุษย์เริ่มทวีมากขึ้นบนพื้นแผ่นดินโลก และพวกเขาให้กำเนิดบุตรสาวหลายคน
Wickedness of Man
6:1 And it came to pass, when men began to multiply on the face of the earth, and daughters were born unto them,
6:2 บุตรชายทั้งหลายของพระเจ้า (Fallen Angel หรือกลุ่ม The Watcher) เห็นว่าบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์สวยงาม และพวกเขารับเธอทั้งหลายไว้เป็นภรรยาตามชอบใจของพวกเขา
6:2 That the sons of God saw the daughters of men that they were fair; and they took them wives of all which they chose.
คำเตือนของพระเจ้าถึงการพิพากษา
6:3 พระเยโฮวาห์ตรัสว่า "วิญญาณของเราจะไม่วิงวอนกับมนุษย์ตลอดไป เพราะเขาเป็นแต่เนื้อหนัง อายุของเขาจะเพียงแค่ร้อยยี่สิบปี"
God's Warning of the Coming Judgment
6:3 And the LORD said, My spirit shall not always strive with man, for that he also is flesh: yet his days shall be an hundred and twenty years.
6:4 ในคราวนั้นมีพวก***มนุษย์ยักษ์***บนแผ่นดินโลก แล้วภายหลังเมื่อบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าเข้าหาบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์ และเธอทั้งหลายคลอดบุตรให้แก่พวกเขา บุตรเหล่านั้นเป็นคนมีอำนาจมาก ตั้งแต่สมัยโบราณเป็นคนมีชื่อเสียง
6:4 There were giants in the earth in those days; and also after that, when the sons of God came in unto the daughters of men, and they bare children to them, the same became mighty men which were of old, men of renown.
6:5 และพระเจ้าทรงเห็นว่าความชั่วของมนุษย์มีมากบนแผ่นดินโลก และเจตนาทุกอย่างแห่งความคิดทั้งหลายในใจของเขาล้วนแต่ชั่วร้ายอย่างเดียวเสมอไป
6:5 And GOD saw that the wickedness of man was great in the earth, and that every imagination of the thoughts of his heart was only evil continually.
6:6 พระเยโฮวาห์ทรงโทมนัสที่พระองค์ได้ทรงสร้างมนุษย์บนแผ่นดินโลก และกระทำให้พระองค์ทรงเศร้าโศกภายในพระทัยของพระองค์
6:6 And it repented the LORD that he had made man on the earth, and it grieved him at his heart.
6:7 พระเยโฮวาห์ตรัสว่า "เราจะทำลายมนุษย์ที่เราได้สร้างมาจากพื้นแผ่นดินโลก ทั้งมนุษย์และสัตว์และสัตว์เลื้อยคลานและนกในอากาศ เพราะว่าเราเสียใจที่เราได้สร้างพวกเขามา"
6:7 And the LORD said, I will destroy man whom I have created from the face of the earth; both man, and beast, and the creeping thing, and the fowls of the air; for it repenteth me that I have made them.
ด้วยสาเหตุนี้จึงเป็นที่มาของการ "ชำระล้าง" โลกมนุษย์ในรอบแรกด้วย"น้ำ" นั่นก็คือสาเหตุและที่มาของเหตุการณ์ "น้ำท่วมโลกและเรือโนอาห์" ที่ถูกบันทึกไว้นั่นเองครับ (หลักฐานการค้นพบเรือโนอาห์ซึ่งถูกน้ำแข็งปกคลุมไว้ ที่ความสูง 14,000 ฟุต บนเทือกเขาอารารัต ในประเทศตุรกี...Click )" target="_blank">(หลักฐานการค้นพบเรือโนอาห์ซึ่งถูกน้ำแข็งปกคลุมไว้ ที่ความสูง 14,000 ฟุต บนเทือกเขาอารารัต ในประเทศตุรกี...Click )
Re: Subliminal Messages การซ่อนข้อความหรือความหมายในที่ต่างๆ???
คำถามก็คือวันนี้โลกของเราใบนี้กำลังเดินไปสู่จุดเดิมคือความผิดบาปเต็มล้นโลก "อีกครั้ง" แล้วหรือยัง ถ้าถามผม ผมคงจะตอบได้ว่ามัน Over Due หรือเกินจุดนั้นมานานมากแล้ว และถ้าการ "ชำระล้าง" จะต้องมาถึงอีกครั้งก็ไม่น่าจะแปลกอะไร จริงไม๊ครับ???
ภาพการขุดค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ยักษ์(บางส่วน)ในที่ต่างๆ ทั่วทุกมุมโลกในศตวรรษที่ผ่านมา
ภาพการขุดค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ยักษ์(บางส่วน)ในที่ต่างๆ ทั่วทุกมุมโลกในศตวรรษที่ผ่านมา
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ